ข้าวเป็นพืชผสมตัวเอง (self pollinated crop) กล่าวคือ มีดอกที่จัดอยู่ในประเภทดอกสมบูรณ์ (perfect flower) ทั้งเกสรเพศเมียและเกสรเพศผู้อยู่ในดอกเดียวกัน จึงเกิดการผสมของละอองเกสรเพศผู้และเกสรเพศเมียภายในดอกได้มากกว่าพืชที่เป็นผสมข้าม (cross pollinated crop) เช่น ข้าวโพด เป็นต้น

อย่างไรก็ตามโอกาสที่จะเกิดการผสมข้ามในข้าวมีประมาณ 5% ดังนั้นการปลูกข้าวในพื้นที่นาทั่วไปอาจเกิดการผสมกับข้าวสายพันธุ์อื่นๆที่ปลูกในพื้นที่เดียวกัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการทำให้เกิดสายพันธุ์ข้าวใหม่ๆ ตามวิถีการทำนาแบบเดิม

การผสมระหว่างเกสรเพศผู้กับเกสรเพศเมียเพื่อทำให้เกิดเมล็ดข้าวขึ้นนั้น มีช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสมประมาณ 20-30 องศาเซลเซียส ถ้าอุณหภูมิตํ่าลงถึง 16 องศาเซลเซียส หรือสูงถึง 40 องศาเซลเซียส เกสรเพศผู้จะถูกทําลายหมด เนื่องจากมีกระบวนการที่ต้องอาศัยการทํางานของเอนไซม์

งานวิจัยจากศูนย์วิจัยข้าวพิษณุโลก เมื่อปี 2543 พบว่าอุณหภูมิในช่วงเดือนมีนาคมที่สูงกว่าปกติ 1-3 องศาเซลเซียส ในช่วงผสมเกสรของข้าวนาปรัง ทำให้ข้าวพันธุ์ปทุมธานี 1 เกิดเมล็ดลีบมากกว่า 40 % เป็นต้น

ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศที่มีแนวโน้มว่าอุณหภูมิของโลกโดยเฉลี่ยเริ่มสูงขึ้น โดยในหลายพื้นที่มีอุณหภูมิสูงมากกว่า 40% จึงส่งผลต่อผลผลิตข้าวของโลกในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบต่อประเทศไทยและประเทศในเขตร้อน